Tuesday, June 26, 2018

3 วิธีแก้มือถือช้า เร็วและแรงต้องทำยังไง?
                เราเชื่อว่าหลายคนคงเคยพบเจอปัญหาน่าเบื่อของสมาร์ทโฟนเครื่องเดิมที่ทำงานได้ช้าลง ซื้อมาช่วงแรกก็ยังดีๆ แต่ทำไมเวลาผ่านไปถึงไม่ไวเหมือนเดิม?
                อาจเป็นเพราะหลายแอปพลิเคชันแอบกินทรัพยากรเครื่องโดยที่คุณไม่รู้ตัว หรือไม่เคยเอะใจมาก่อน โดยเฉพาะแอปพลิเคชันที่มีการรับ-ส่งภาพและวิดีโอ เพราะแอปเหล่านี้เป็นแอปที่คนส่วนใหญ่ใช้งานเป็นประจำ และจำนวนข้อมูลก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการใช้งานนั่นเอง

3 เคล็ดลับ...สำหรับเช็กพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนมือถือและลบแคชเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างให้กับสมาร์ทโฟนของคุณ
1. ไม่ว่าสมาร์ทโฟนที่คุณใช้อยู่จะเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์หรือ iOS ก็ขอให้คุณอัพเดตให้เป็นเวอร์ชั่นปัจจุบันที่สุด เพราะเวอร์ชั่นใหม่มักจะมากจากการแก้ไข้จุดบกพร่องของเวอร์ชั่นเก่า อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสมาร์ทโฟนของคุณด้วย
2. จัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล เนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ตัวว่าแชตแอปพลิเคชันทั้งหลายคือปัจจัยหลักที่กินพื้นที่โทรศัพท์ของคุณ และยิ่งมีข้อมูลมากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้สมาร์ทโฟนของคุณช้าลงเท่านั้น โดยคุณสามารถตรวจได้เองดังนี้ 
ผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS สามารถทำได้โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า (Settings) จากนั้นไปที่ ทั่วไป (General) การใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูล & iCloud (Storage & iCloud Usage) และจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล (Manage Storage)
ผู้ที่ใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์ สามารถเข้าไปที่ การตั้งค่า (Settings) แล้วไปที่ แอปพลิเคชัน (Applications) หรือบางรุ่นจะต้องกดเข้าไปที่ พื้นที่จัดเก็บแอปพลิเคชันเหล่านั้นได้อย่างเหมาะสม
3. สำหรับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ให้ลบข้อมูลแคชเก่าๆ ที่ไม่ถูกเรียกใช้งานแล้วทิ้งไปบ้าง โดยเข้าไปที่ Settings -> Storage จากนั้นแตะเลือกในส่วนของ Cached data และลบข้อมูลแคชทั้งหมด
ส่วนผู้ใช้ไอโฟน ให้ปิดหน้าจอที่ไม่ใช้งานทิ้งเสียบ้าง อีกทั้งการตั้งค่าภาพแบ็กกราวด์แบบเคลื่อนไหวก็อาจทำให้มือถือของคุณช้าลงด้วย
ที่มา:ไทยรัฐ

Tuesday, June 19, 2018

                          3 วิธีทำความสะอาดมือถือ ลดปัญหาเชื้อโรคและแบคทีเรีย

                   คุณเชื่อหรือไม่ว่า สมาร์ทโฟน ที่คุณใช้อยู่ทุกวันนี้มีแบคทีเรียและเชื้อโรคเกาะอยู่มากกว่าฝารองชักโครกเสียอีก แล้วยิ่งคุณถือมันทั้งวัน อีกทั้งยังเอาแนบกับใบหน้าอีกต่างหาก
นั่นเป็นเพราะว่า โทรศัพท์มือถือที่เราหยิบจับกันอยู่ทุกวี่วันกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคโดยมีพาหะเป็นนิ้วมือของตัวเราเอง! ...เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าในแต่ละวันเรามักจะหยิบจับมือถืออยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะออกไปทำกิจกรรมใดๆ อาทิ เข้าห้องน้ำ เล่นกีฬา ขึ้นรถโดยสารประจำทาง เดินช้อปปิ้ง
รับประทานอาหาร รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ อีกมาก ที่เรามักจะหยิบสมาร์ทโฟนออกมาใช้ด้วยความเคยชิน


Emily Toth Martin ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ออกมาให้ความคิดเห็นว่า "ไม่แปลกที่เชื่อโรคที่อยู่บนพื้นผิวของโทรศัพท์มือถือ จะทำให้คุณรู้สึกไม่สบาย เนื่องจากคุณจับมันแทบตลอดเวลาไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไร แม้แต่เวลารับประทานอาหาร นี่ยังไม่รวมเวลาคุณยกมันขึ้นมาคุยโทรศัพท์ ซึ่งอาจเป็นการเสี่ยงให้แบคทีเรียเหล่านั้นกระจายเข้าสู่หลอดลมและทางเดินหายใจของคุณได้"

3 วิธีดูแลรักษาโทรศัพท์มือถือของคุณ ให้สะอาด ปราศจากแบคทีเรียใดๆ มาดูกันดีกว่าว่าจะมีวิธีอะไรบ้าง

1. เช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสำหรับโทรศัพท์มือถือ: คุณสามารถหาซื้อน้ำยาเช็ดมือถือได้ตามร้านขายอุปกรณ์มือถือทั่วไป เนื่องจากเราไม่แนะนำให้คุณเช็ดด้วยแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพราะมันอาจจะกัดพื้นผิวโทรศัพท์ของคุณให้มีรอยด่างได้ ทางที่ดี ลงทุนสักนิดซื้อน้ำยาเฉพาะมาเช็ดดีกว่า

2. ใช้ไม้จิ้มฟันพันสำลีแห้งเช็ดในพื้นที่เล็กๆ: ใช้ลำลีแห้งพันปลายไม้จิ้มฟันเพื่อเช็ดฝุ่นละอองที่เข้าไปสะสมในซอกต่างๆ ของโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นช่องเสียบสายชาร์จ หรือแม้แต่ช่องเสียบหูฟัง วิธีนี้คุณสามารถทำได้ง่ายๆ อีกทั้งประหยัดด้วย

3. เช็ดด้วยทิชชูเปียก: เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดใน 3 ข้อที่เราเลือกมา เพราะคุณสามารถใช้ทิชชูเปียกที่หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป แต่ต้องพยายามเลือกที่ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือน้ำเยอะจนเกินไป โดยสามารถเช็ดได้ทั้งหน้าจอและตัวเครื่องเกือบทุกส่วน

ที่มา:ไทยรัฐ

Monday, June 11, 2018

เปรียบเทียบเหตุผลที่คุณควรซื้อ MacBook มากกว่า Notebook PC
เปรียบเทียบเหตุผลที่คุณควรซื้อ MacBook มากกว่า Notebook PC โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 มิ.ย. 2561 06:05 วลาที่อยากจะเปลี่ยนโน้ตบุ๊กทีไร เรามักจะมีคำถามกับตัวเองว่าจะใช้ Notebook PC แบบเดิม หรือเปลี่ยนไปใช้ MacBook ดีกว่า
1. การเลือกซื้อ MacBook สามารถทำได้ง่ายๆ อาจเพราะมีอยู่แค่ไม่กี่โมเดลให้คุณเลือก เพราะมีแค่ MacBook, MacBook Air, และ MacBook Pro ให้เลือกเท่านั้น ที่เหลือก็ต่างกันแค่โปรเซสเซอร์และความจุของตัวเครื่องเท่านั้นเอง

2. MacBook ส่งซ่อมง่าย ไม่ยุ่งยาก ถ้า MacBook ของคุณพังขึ้นมา คุณแค่เพียงนำมันไปที่ Apple Store เท่านั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีข้อมูลส่วนตัวหลุดออกไป หรือถูกย้อมแมวเอาชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐานมาใส่ให้ ในขณะเดียวกันถ้าคุณใช้ Notebook PC คุณอาจจะต้องกังวลเรื่องการหาร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ที่ไว้ใจได้

3. โดดเด่นที่ระบบปฏิบัติการ macOS อย่างที่รู้กันดีว่า macOS คือระบบปฏิบัติการที่เป็นหัวใจสำคัญของ Mac ทุกเครื่อง ซึ่งจะช่วยให้คุณทำสิ่งต่างๆ ได้ในแบบที่คุณจะไม่มีวันพบจากคอมพิวเตอร์เครื่องไหนๆ อีกทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับไอโฟน และอุปกรณ์แอปเปิลอื่นๆ ได้อย่างคล่องตัว

4. ใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของแอปเปิลได้อย่างลื่นไหล ผลิตภัณฑ์มากมายของแอปเปิล ไม่ว่าจะเป็น iPhone, AirPods, iPad, Apple Watch, HomePods และ Apple TV ก็สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ คล่องตัวสุดๆ เช่น ถ้ามีคนโทรหาคุณบน iPhone คุณก็รับสายนั้นบน Mac ได้เลยทันที หรือคุณจะคัดลอกข้อความหรือภาพจากอุปกรณ์หนึ่งแล้ววางลงในอีกเครื่องหนึ่งด้วยคำสั่งคัดลอกและวางอย่างที่ใช้กันโดยทั่วไปก็ทำได้ ยิ่งถ้าคุณใส่ Apple Watch อยู่ เพียงแค่เดินเข้าไปใกล้ๆ ก็สามารถปลดล็อก Mac ได้ทันที โดยไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่านเลย

5. มีซอฟต์แวร์ฟรีๆ ดีๆ ให้เลือกมากมาย นี่คือประโยชน์ที่ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ชื่นชอบมากที่สุด เพราะซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่อง Mac ไม่ว่าจะเป็น iMovie, Garage Band หรือ Image Capture ล้วนแล้วแต่เป็นโปรแกรมที่มีคุณภาพสูง ทำให้เราไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อซอฟต์แวร์ลักษณะนี้เพิ่มอีก

6. ไม่ต้องคอยระวังซอฟต์แวร์เถื่อนแบบ Notebook PC เชื่อเถอะว่าปัจจุบันนี้หลายคนยังโหลดซอฟต์แวร์เถื่อนกันอยู่เลย (เราไม่สนับสนุนนะ) เพราะนอกจากการได้โปรแกรมฟรีๆ มาแล้ว เราอาจจะได้ไวรัสมาเป็นของแถม เผลอๆ ยังนำไปสู่การสูญเสียข้อมูลชิ้นสำคัญในเครื่อง แต่ไม่เป็นกับ macOS ที่กำจัดซอฟต์แวร์การให้บริการให้คุณวางใจในการดาวน์โหลด (ซึ่งมันก็มีทั้งฟรีและเสียเงินอ่ะนะ)

7. macOS อัพเดตฟรีจ้า เพราะเมื่อไรที่แอปเปิลประกาศ OS เวอร์ชั่นใหม่ คุณก็สามารถอัพเดตได้ฟรีๆ แถมยังง่ายดายสุดๆ

8. เครื่องบาง แบตอึด พกพาแล้วดูสวย หลายคนชอบ MacBook เพราะเหตุผลเหล่านี้จริงๆ เนื่องจากการพกพาเครื่องแมคออกไปทำงานนอกสถานที่จะทำให้คุณดูดีขึ้นมาอีก 2 เท่า แถมยังได้ถ่ายรูปชิคๆ ลงบนโซเชียลมีเดียได้ด้วย

                                                                                                                                                                                                ที่มา:ไทยรัฐ